1
ธรรมชาติที่เรียกกันว่า “ป่าเขาหลวง” นั้น ได้ส่งให้ที่นี่กลายเป็นอุทยานแห่งชาติทางประวัติศาสตร์แห่งแรกของเมืองไทย ที่เต็มไปด้วยน่าสนใจและควรค่าน่าศึกษายิ่งนัก โดยครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอคีรีมาศ และอำเภอบ้านด่านลานหอย มีพื้นที่ประมาณ 213,215 ไร่ ได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523 ซึ่งได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น อุทยานแห่งชาติรามคำแหง เพื่อรำลึกถึงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
อุทยานแห่งชาติรามคำแหงมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน ทอดตัวอยู่ในแนวเหนือ-ใต้ ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นราบคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ โดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทุ่งนา มีขุนเขาที่สูงเด่นมองเห็นมาแต่ไกล คือ ยอดเขาหลวง ภายในอุทยานฯ มีสัตว์ป่า เช่น วัวแดง เก้ง หมี หมูป่า นกกระเต็น และนกนางแอ่น พรรณไม้ที่สำคัญได้แก่ สัก ตะเคียน เต็ง รัง พืชสมุนไพร และว่าน มีน้ำตกที่สวยงาม และถ้ำต่างๆ ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สภาพอากาศบนยอดเขาหนาวเย็นตลอดปี มีเมฆหมอกปกคลุมมากในฤดูหนาวและฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยโดยประมาณ 12-14 องศาเซลเซียส
จุดชมวิวเขาหลวง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,200 เมตร เป็นภูเขาที่มีหน้าผาสูงชัน มียอดเขาสูงที่สุดอยู่ทางด้านทิศใต้ของเมืองสุโขทัย ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมียอดเขา 4 แห่ง ได้แก่
ไทรงาม ระหว่างทางขึ้นยอดเขาหลวง คุณจะพบต้นไทรขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา มีลักษณะสวยงาม ดูแปลกตา เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อน
ปล่องนางนาค อยู่ห่างจากไทรงาม 320 เมตร มีลักษณะเป็นปล่องธรรมชาติอยู่บริเวณยอดเขา ที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับตามตำนานพระร่วงในพงศาวดารเหนือ ในห้วงเวลาที่เจ้าเมืองออกมาจำศีล
สวนลุ่ม หรือ สวนลุมพินีวัน เป็นสวนว่านยาสมุนไพรอยู่ที่เชิงเขาหลวง ปัจจุบันคือ ที่ตั้งของสำนักงานอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาหลวง ภายในอุทยานฯ มีว่านและสมุนไพรหลายชนิด
น้ำตกสายรุ้ง สายน้ำตกทิ้งตัวลงมาจากผาหินสูงชัน เมื่อได้องศาพอเหมาะระหว่างแสงและละอองน้ำ คุณจะเห็นสายรุ้งพราวทอประกายขึ้นมา โดยช่วงเวลาที่มองเห็นสายรุ้งนี้มักขึ้นเกิดเวลา 11.00-16.00 น.
ภายในบริเวณมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติรามคำแหง (เขาหลวง) ตัวน้ำตกมีทั้งหมด 4 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้ โดยต้องเดินเท้าจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขึ้นไปตามธารน้ำในระยะทาง 800 เมตร 900 เมตร 1,160 เมตร และ 1,200 เมตร ตามลำดับ ที่นี่อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาหลวง ห่างจากอุทยานแห่งชาติรามคำแหง (เขาหลวง) 50 เมตร
ทริปนี้ผมไปกัน 4 คนครับเนื่องจากสมาชิกท่านอื่นๆไม่ว่างกันครับ เราออกเดินทางตั้งแต่กลางดึก เพื่อที่จะให้ไปถึงที่ สุโขทัยในตอนเช้า ครับ
พอใกล้ถึง อุทยาน เราก็จะเริ่มเห็นยอดเขาที่เป็นจุดหมายปลายทางของเราครับ สำหรับที่นี่พวกเรายังไม่เคยมาเลยครับ มากันครั้งแรกนี่แหละครับ หลังจากทนความเหนื่อยจากเขาช่อมาแล้วเราก็อยากมาชิลๆ ที่อื่นบ้าง
และแล้วเราก็มาถึงครับ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ครับผม
มาถึงอาจารย์ของเราก็รีบไปลงทะเบียนให้เลยครับ มีกันอยู่สี่คน (อ้ายมาสี่คน)
ขับเข้ามาหน่อยก็แวะถ่ายรูปสักนิด ไม่ใช้เวลานานครับ ลงไปถ่ายปุ๊บก็เดินทางไปต่อเลย เนื่องจากเรามากันสายแล้ว ต้องรีบเดินทางขึ้นเขากันอีก
ส่วนตัวแล้วคิดว่าหากท่านจ้างลูกหาบได้ก็จ้างเถอะครับ ช่วยเหลือชาวบ้านให้มีงานทำและมีรายได้ อีกประการหนึ่งคือท่านจะได้เก็บแรงไว้เดินขึ้นไปชมวิวต่อด้านบนครับ เป็นทางออกที่ดีกว่าการเดินขึ้นไปแล้วหมดแรงไม่ได้ชมวิวนะครับ
จุดเริ่มต้นแรกๆก็จะเป็นการเดินง่ายๆครับ เป็นทางราบเสียส่วนใหญ่ครับ มีเดินข้ามลำธารอยู่ 1 จุดครับชิลๆ
พอถึงจุดที่เป็นทางชัน ก็จะมีที่จับด้านข้างครับ และทางก็จะทำเป็นขั้นบันไดไว้ครับ เหนื่อยหน่อยกับการเดินขึ้นนะครับ
ถ้าหากเดินไปจนถึงจุดที่มีกอไผ่เยอะๆ เดาได้เลยว่าเดินมาเกินครึ่งทางแล้วครับ
ถึงจุดนี้ก็เฮือกสุดท้ายแล้วครับ ใกล้แล้วๆ
พอมาถึงก็หมดแรงเลยครับ งานต่อไปก็คือหาจุดพัก และเดินไปชมพระอาทิตย์ตกครับ รายละเอียดหลังจากนี้ไม่ขอกล่าวอะไรมากมายนะครับดูจากรูปเลยครับ
การเดินทาง: จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนกำแพงเพชร ทางหลวงหมายเลข 101 ถึงอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย จะพบทางแยกซ้ายเข้าไปประมาณ 12 กิโลเมตรจะพบที่ทำการอุทยานแห่งชาติรามคำแหง
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติรามคำแหง อำเภอบ้านด่านลานหอย และอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย 6400
เบอร์ติดต่อ : +66 5591 000-1, +66 2562 0760ค่าเข้าชมและที่พัก
ค่าเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการลูกหาบขึ้นยอดเขาหลวง ราคากิโลกรัมละประมาณ 15 บาท โดยสามารถติดต่อได้ที่อุทยานฯ
สถานที่พัก อุทยานฯ มีบ้านพักบริการ จำนวน 3 หลัง พักได้ 6-10 คน ราคา 500 บาท/คืน และมีเต็นท์ให้เช่า ถ้านำเต็นท์มาเองเสียค่าพื้นที่ 30 บาท/คน/คืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง
ขอขอบคุณที่มาข้อมูล
https://thai.tourismthailand.org