เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อนสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”

สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาดินและภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน โดยเฉพาะช่องแคบเขากาเลาะมีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนที่มียอดแหลมระเกะระกะ มีแนวหน้าผาสูงชันบางแห่งเป็นแท่งสูงขึ้นไปในอากาศคล้ายหอคอยสูง พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติด้านทิศเหนือเกือบทั้งหมดเป็นทะเลสาบ ที่เกิดขึ้นจากการสร้าง เขื่อนรัชชประภา ซึ่งสร้างปิดกั้นคลองแสง มีขนาดใหญ่ประมาณ 168 ตารางกิโลเมตร ก่อให้เกิดเกาะเล็กเกาะน้อยประมาณ 162 เกาะ พื้นที่ประมาณ 14.06 ตารางกิโลเมตร เกาะเล็กเกาะน้อยนี้ก็คือ ส่วนที่โผล่พ้นน้ำของเขาหินปูนนั่นเอง ก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง

บริเวณ อุทยานแห่งชาติเขาสก ฝนจะเริ่มตกตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน จนถึงปลายเดือนธันวาคมของทุกปี และจะตกชุกมากในช่วงเดือนพฤษภาคม - พฤศจิกายน ช่วงที่เหมาะในการเข้าไปชม อุทยานแห่งชาติเขาสก จะอยู่ในระหว่างเดือนธันวาคม - เมษายน ของทุกปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 26 องศาเซลเซียส เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดคือเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศาเซลเซียส เดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดคือเดือนมกราคม มีอุณหภูมิเฉลี่ย 25 องศาเซลเซียส

เริ่มต้นด้วยการเดินทาง ผมเดินทางออกจาก รังสิต หากถามว่าทำไมถึงออกจากรังสิต (ตอบง่ายๆครับผมอยู่แถวนี้)

ผมออกเดินทางตอนเที่ยงคืนได้ครับ คิดไว้ว่าจะไปถึงก็น่าจะช่วงเช้าๆครับ ขับรถตอนกลางคืนไม่ต้องห่วงเรื่องรถติดสักเท่าไหร่ครับ เราออกเดินทางแวะเติมน้ำมันบ้าง หาอะไรกินบ้าง หลงบ้างขับวนๆบ้าง แต่เราก็มุ่งไปยังเป้าหมายเดิม ถึงแม้ทริปนี้ผมขับรถไปขับมา เจอป้ายบอกทางกลับบ้านบ่อยมากเพราะขับหลง แต่เราก็ยังตั้งใจจะไป

เมื่อมาถึง ไปจอดรถในที่จอดเสร็จเรียบร้อยผมก็รีบวิ่งมาถ่ายรูปท่าเรือที่เราจะเริ่มเดินทางกันที่นี่ ถ่ายได้ไม่กี่รูปเองครับแต่ก็ยังดีได้เก็บรูปบางจุดมาให้ได้ชมกันครับ

เมื่อคนพร้อม กระเป๋าพร้อม เรือพร้อม เราก็เริ่มออกเดินทางครับ สมาชิกผมมีกันอยู่ 10 คนครับซึ่งเป็นจำนวนที่ผมมองว่ากำลังดีสำหรับท่องเที่ยวที่นี่ครับ เพราะหารค่าเรือได้ง่ายครับ คนน้อยกระเป๋าก็ต้องหนักหน่อยครับ

ตลอดสองข้างทาง ระหว่างการนั่งเรือก็จะเห็นทิวเขา มากมายรายล้อมเราอยู่ น้ำที่นี่ใสมากครับ ใสมากจริงๆเป็นสีเขียวเลย ถึงจะใสอย่างไรก็ลึกมากด้วยครับ

เมื่อเราเดินทางมาถึงที่พัก ที่พักของเราเป็นที่พักอุทยาน ครับ
ไม่มั่นใจเรื่องรายละเอียดสักเท่าไหร่ครับ แต่เหมือนว่าในแพต่างๆจะมีบ้านของ อุทยานอยู่ด้วยครับ ราคาก็จะถูกกว่าของแพครับ แต่สำหรับผมว่าถูกกว่ากันไม่มากครับ บริการที่เราได้ก็ได้จากแพนั้นๆแหละครับ แต่อาหารที่เราได้ไม่เต็มที่เหมือนกับเราจองตรงเลยกับทางแพครับ อ้อเกือบลืมไปครับ บางแพจะไม่มีที่พักอุทยานนะครับ เช่นแพ 500ไร่ คนขับเรือบอกว่าไม่มี

บางแพมีน้ำอุ่นให้ด้วยนะครับ ทีวีตู้เย็นพร้อมเลยก็ว่าได้ ส่วนชื่อผมจำไม่ได้จริงๆครับ

ช่วงที่ผมไปแย่หน่อยครับ พอดีเป็นช่วงที่ประเทศของเราโดนปัญหาเรื่องกลุ่มควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ทุกเวลาที่นี่เหมือนตอนเช้าหมดเลย ท้องฟ้าไม่เปิดเช่นเคยครับ ไม่รู้ว่าหมอกหรือควัน ถ่ายรูปเลยมองไม่ค่อยเห็นภูเขาสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังพอมีให้ถ่ายได้บ้างครับ

สถานที่ท่องเที่ยวที่เขาสก หรือที่เขื่อนก็จะมีหลายๆที่นะครับ ที่นี่ก็มีน้ำตกเช่นกันครับ รวมไปถึงถ้ำต่างๆด้วยครับ เท่าที่ผมสอบถามมามีที่ที่น่าสนใจที่ผมอยากจะไปด้วยครับ จะเป็นส่วนที่จะต้องนั่งเรือไปขึ้นเกาะและเดินป่าต่ออีกประมาณ 30 นาทีเพื่อไปยังน้ำตกครับ

การเดินทางก็จะเป็นแพไม้ไผ่ด้วยในบาง ช่วงครับ สำหรับรายละเอียดลึกๆยังไม่สามารถแนะนำได้นะครับเพราะยังไม่ได้ลองไป เป็นเพียงข้อมูลที่สอบถามมาครับ ถ้ามีโอกาสคราวหน้าได้พบกันแน่ๆครับกับทริปเดินป่า ที่เขาสก

ผมนำสถานที่ต่างๆมาให้ครับ พอดีหาจากเว็บต่างๆนี่แหละครับลองดูและสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมนะครับ

• เดินป่าระยะไกล กม.99 - คลองแปะ
• ล่องแก่งน้ำตกบางหัวแรด - ลำคลองศก
• ถ้ำค้างคาว
• ถ้ำน้ำทะลุ
• ถ้ำประกายเพชร
• ถ้ำสี่รู
• น้ำตกโตนกลอย
• น้ำตกธารสวรรค์
• น้ำตกบางเลียบน้ำ
• น้ำตกบางหัวแรด
• น้ำตกแม่ยาย
• น้ำตกวิ่งหิน
• น้ำตกสิบเอ็ดชั้น
• เส้นทางศึกษาธรรมชาติ

ที่แพก็จะมีเรือให้พายเล่นครับ มีที่สำหรับกระโดดน้ำครับ แพที่ผมไปพักดีหน่อยครับห้องน้ำเขาอยู่ด้านหลังที่เล่นน้ำครับ และมีห้องน้ำบนบกด้วยครับ มีห้องอาบน้ำแต่น้ำไหลเบาไปหน่อย แต่อย่างไรเราก็อาบน้ำที่หน้าแพเราได้เลยครับ ช่วงที่ผมไปคนดูแลแพเขาว่า ช่วงนี้เป็นช่วงน้ำขึ้้นครับ ผมดูจากที่พักแล้ว ปกติจะอยู่บนบกเลยครับอยู่ชายๆของเกาะครับ แต่นี่คือน้ำท่วมหมดเลย

ตอนเช้าคนขับเรือก็พาเราไปล่อง ชมความงามเนื่องจาก เมื่อวานเราถ่ายรูปไม่ถนัดเพราะติดเรื่องควันครับ แต่เช้านี้ก็ยังมีปัญหาอยู่ ก็คงต้องทำใจแหละครับทำอะไรได้ไม่มาก

การเดินทาง

รถบัสโดยสารปรับอากาศ สาย 444 กระบี่-พังงา-ทุ่งมะพร้าว-ปากทางทับละมุ-เขาหลัก-ปากทางน้ำเค็ม-ตะกั่วป่า-อุทยานแห่งชาติเขาสก รถออกจาก บขส. กระบี่ (ตลาดเก่า) เวลา 11.30 น. รถออกจากปากทางอุทยานแห่งชาติเขาสก เวลา 09.00 น. ท่านผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วบนรถ หรือจุดขายตั๋ว ณ บขส. นั้น ๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 075-663444, 080-2802105 หรือ 080-2802116

รถตู้ปรับอากาศ สุราษฎร์ธานี-อุทยานแห่งชาติเขาสก (จุดจอดและจำหน่ายตั๋ว ตั้งแต่เวลา 07.30-17.00 น.)

• เขาสก สามแยกเข้าอุทยานฯ โทร. 07-2735907
• พนม ศาลาข้างป้อมตำรวจ โทร. 09-5936099
• ปากทางคริต สามแยกปากทางคริต โทร. 06-2670149
• ตาขุน หลังศาลาตาขุน โทร. 01-0824041
• สามแยกหนองขรี โทร. 01-5367126
• ตลาดเกษตร 2 ร้านข้าวแกงป้าเยาว์ โทร. 077-206217

ตารางรถตู้ปรับอากาศ สายสุราษฎร์ธานี-เขาสก เขาสก-สุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี-เขากก
เที่ยวออกถึงตาขุน เที่ยว ออก 1. เขากก 07.15 08.15 1. บ้านดอน 06.30 2. เขาสก 08.30 09.30 2.บ้านดอน 08.30 3. พนม 10.25 10.40 3. บ้านดอน 10.30 4. เขาสก 12.40 13.40 4. บ้านดอน 12.30 5. พนม 14.20 14.35 5. บ้านดอน 14.30 6. เขาสก 16.30 17.30 6. บ้านดอน 17.00

ขอขบคุณข้อมูลดีๆจาก
th.wikipedia.org
travel.kapook.com