นักวิจัยหมามุ่ยอินเดียคนแรกของประเทศไทยศึกษาและทดลองปลูกตั้งแต่ปี 2554 โดยจากการทดลอง พบว่าสภาพอากาศในประเทศไทยสามารถปลูกหมามุ่ยอินเดียได้ดี โดยเฉพาะในภาคกลาง และสามารถพัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจได้ หมามุ่ยเป็นไม้เลื้อยล้มลุก ที่สำคัญมีขนที่เต็มไปด้วยสารชนิดหนึ่ง เรียกว่าสารซีโรโทนิน เมื่อโดนจะทำให้เกิดอาการคันระคายเคือง ประโยชน์ของหมามุ่ยใช้ได้ตั้งแต่ราก ใบ ฝัก เม็ด บำรุงกำลัง ช่วยการมีบุตรยาก คลายเครียด และเพิ่มการเผาผลาญมวลของกล้ามเนื้อ

สำหรับข้อควรระวังในการรับประทานเม็ดหมามุ่ยต้องคั่วให้สุก เพราะหากไม่สุก จะเกิดสารพิษบางอย่างขึ้น ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน เพราะในเม็ดหมามุ่ยมีสารแอลโดปาที่จะทำให้สารสื่อประสาทเกิดความไม่สมดุลได้

นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยบางโรคที่ไม่ควรกิน เช่น ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงผู้ที่ต้องใช้ยาทางจิตเวช รวมทั้งเด็ก และหญิงตั้งครรภ์

ที่ผ่านมา มูลนิธิ ร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เร่งศึกษาวิจัยและพัฒนาสมุนไพรหมามุ่ยให้เป็นที่ยอมรับในทางวิทยาศาสตร์และคลินิก เพื่อขึ้นทะเบียนกับ อย.จำหน่ายเป็นยารักษาโรค และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ข้อมูลอ้างอิง : news.thaipbs.or.th